The Glorious Revolution: A Turning Point for Constitutional Monarchy and Protestant Succession

 The Glorious Revolution: A Turning Point for Constitutional Monarchy and Protestant Succession

ในแวดวงประวัติศาสตร์อังกฤษ ยุค “Glorious Revolution” หรือการปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางการเมืองและสังคมของประเทศไปอย่างถาวร ในปี ค.ศ. 1688 เจมส์ที่ 2 (James II) กษัตริย์ผู้ครองบัลลังก์อังกฤษในขณะนั้น ได้ถูกปลดจากราชสมบัติด้วยความร่วมมือระหว่างขุนนางและประชาชน ซึ่งนำไปสู่การสถาปนาสิทธิของรัฐสภาและการกำหนดหลักการว่าด้วยพระมหากษัตริย์ที่ต้องเป็น Protestant

เจมส์ที่ 2 ผู้ครองราชย์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1685 เป็นกษัตริย์คาทอลิกซึ่งนโยบายการปกครองของพระองค์ได้สร้างความกังวลอย่างมากต่อกลุ่ม Protestant ซึ่งถือเป็นเสียงข้างมากในสังคมอังกฤษ

เหตุการณ์สำคัญ วันที่
เจมส์ที่ 2 ประกาศนโยบายความอด hoşlantı ต่อคาทอลิก กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1687
การประสูติของเจ้าชายเจมส์ ฟรานซิส เอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์คนต่อไปที่เป็นคาทอลิก มิถุนายน ค.ศ. 1688
วิลเลียมแห่งออเรนจ์ (William of Orange) สหพันธ์กับกลุ่ม Protestant และขึ้นฝั่งอังกฤษ พฤศจิกายน ค.ศ. 1688

ความขัดแย้งทางศาสนา: เส้นแบ่งระหว่างคาทอลิกและ Protestant

เจมส์ที่ 2 ได้พยายามที่จะให้สิทธิแก่ชาวคาทอลิกมากขึ้น โดยการแต่งตั้งผู้ถือครองตำแหน่งสำคัญในกองทัพและรัฐบาล ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่เป็นที่ยอมรับจากกลุ่ม Protestant และขุนนางจำนวนมาก

กลุ่ม Protestant กลัวว่าหากเจมส์ที่ 2 สืบทอดราชบัลลังก์ต่อโดยเจ้าชายคาทอลิก พระองค์จะนำพาประเทศไปสู่การเป็นคาทอลิกอย่างเต็มรูปแบบ นั่นหมายถึงการสูญเสียอิทธิพลทางการเมืองและศาสนาของกลุ่ม Protestant

วิลเลียมแห่งออเรนจ์: ผู้รื้อถอนอำนาจของเจมส์ที่ 2

ในปี ค.ศ. 1688 วิลเลียมแห่งออเรนจ์ (William of Orange) กษัตริย์ร่วมแห่งสาธารณรัฐฮอลแลนด์ และผู้สืบเชื้อสาย Protestant ได้รับการติดต่อจากกลุ่มขุนนาง Protestant อังกฤษ

วิลเลียมได้รับการสนับสนุนอย่างลับๆ จากกลุ่ม Protestant เพื่อโค่นล้มเจมส์ที่ 2 และนำอังกฤษกลับสู่ศาสนา Protestant ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ “Glorious Revolution”

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1688 วิลเลียมแห่งออเรนจ์ พร้อมด้วยกองทัพได้ขึ้นฝั่งอังกฤษโดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก

เจมส์ที่ 2 ผู้ซึ่งไม่สามารถรวบรวมกองทัพของตนเองได้อย่างเต็มรูปแบบ ได้หนีไปยังฝรั่งเศสในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1688

“Glorious Revolution”: การสถาปนาประชาธิปไตยและการปกครองโดยรัฐสภา

หลังจากที่เจมส์ที่ 2 หนีออกนอกประเทศ วิลเลียมแห่งออเรนจ์ และ Mary Stuart ซึ่งเป็นลูกสาวของเจมส์ที่ 2 ได้ขึ้นครองราชย์ร่วมกัน

การขึ้นครองราชย์ของวิลเลียมและแมรี เป็นจุดเริ่มต้นของ “Glorious Revolution” ซึ่งนำไปสู่การปฏิรูปทางการเมืองและสังคมอย่างสำคัญ

  • Bill of Rights (พระราชบัญญัติสิทธิ): ในปี ค.ศ. 1689 รัฐสภาอังกฤษได้ประกาศพระราชบัญญัติสิทธิ ซึ่งกำหนดข้อจำกัดต่ออำนาจของกษัตริย์ และยืนยันว่ารัฐสภาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด

  • Toleration Act (พระราชบัญญัติความอด hoşlantı ): พระราชบัญญัตินี้ได้รับการประกาศในปี ค.ศ. 1689 โดยอนุญาตให้ Protestant ที่ไม่ใช่ Church of England หรือ Anglican ได้มีอิสระในการนับถือศาสนาของตนเอง

“Glorious Revolution” ถือเป็นยุคทองของประชาธิปไตยอังกฤษ ซึ่งได้นำไปสู่การสถาปนา constitutional monarchy (ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ) และการกำหนดหลักการว่าด้วยพระมหากษัตริย์ Protestant